Pet Care ครบเรื่องเรื่องสุขภาพ » Pet Care

เพื่อนๆอาจจะคุ้นหูกันบ่อยๆเรื่องสุนัขแพ้ไก่ ถึงแม้ว่าไก่เป็นเนื้อสัตว์ที่สุนัขมักแพ้ก็จริง และความเชื่อที่ว่าสัตว์เลี้ยง “แพ้ไก่” ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดเสมอไป แต่จริงๆแล้วนอกจากเนื้อไก่ สารอาหารอื่นๆก็อาจทำให้สุนัขและแมวเกิดอาการแพ้ได้ เพราะนอกจากไก่แล้ว สุนัขและแมวอาจจะแพ้....

ร่างกายลูกสุนัขมักอ่อนแอ โดยเฉพาะลูกสุนัขแรกเกิด ซึ่งมักต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เคล็ดลับ 4 ข้อสําหรับการตรวจสอบการเจริญเติบโตของลูกสุนัขที่เพื่อนๆสามารถเช็คได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ...

รู้หรือไม่? สีอุจจาระสามารถบ่งบอกสุขภาพสัตว์เลี้ยงได้ การขับถ่ายของสัตว์เลี้ยงอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงสุขภาพโดยรวมของ ดังนั้นเจ้าของควรใส่ใจกับลักษณะอุจจาระ ด้วยการสังเกตสีอุจจาระของสัตว์เลี้ยง สีของอุจจาระก็มีความสำคัญเหมือนกับเนื้อสัมผัสของอุจจาระที่สามารถบ่งบอกถึงสุขภาพทางเดินอาหารของสัตว์เลี้ยงได้ โดยสีที่ต่างกันบ่งบอกถึงสภาวะของสุขภาพที่แตกต่างกัน ซึ่งสีของอุจจาระมี 4 ประเภทหลัก มาดูกันว่าอุจจาระแต่ละสีมีความหมายอย่างไรบ้าง ถ้าไม่แน่ใจเกี่ยวกับสุขภาพของสุนัขหรือแมว มาตรวจสอบสีอุจจาระของสัตว์เลี้ยงกัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุจจาระของสัตว์เลี้ยงมีสีที่เหมาะสม⬇⬇⬇⬇⬇ สีน้ำตาล อุจจาระสีน้ำตาลบ่งบอกถึงสุขภาพของสุนัขหรือแมว โดยหากมีอุจจาระสีน้ำตาลแสดงว่าสัตว์เลี้ยงมีสุขภาพทางเดินอาหารที่แข็งแรง และมีแบคทีเรียดีมากมาย นอกจากนี้ยังบ่งบอกได้อีกว่าสัตว์เลี้ยงมีการขับถ่ายเป็นประจำทุกวัน สีค่อนข้างดำ อุจจาระมีสีเข้มเนื่องจากถูกสะสมอยู่ในลําไส้ใหญ่เป็นเวลานาน อุจจาระที่เป็นสีดำหรือสีเข้มมากแสดงว่าสัตว์เลี้ยงไม่ขับถ่ายเป็นประจำทุกวัน ซึ่งหมายความว่าสัตว์เลี้ยงอาจมีอาการท้องผูก ดังนั้นถ้าหากสัตว์เลี้ยงมีอุจจาระสีเข้ม ให้เติมไฟเบอร์และน้ำ เพื่อช่วยในการย่อยอาหาร และการขับถ่าย สีค่อนข้างอ่อน (เทาอ่อน เหลือง ฯลฯ) อุจจาระสีอ่อนแสดงว่าสัตว์เลี้ยงมีอาการท้องเสีย นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ไข้ อาเจียน อ่อนเพลีย ฯลฯ ทางที่ดีควรพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์หากพบว่าสีของอุจจาระผิดปกติ สีแดง หากอุจจาระของสัตว์เลี้ยงมีสีแดง ให้รีบพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์ทันที เพราะอุจจาระสีแดงอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพหลายประการ เช่น การกลืนกินสิ่งผิดปกติ โรคริดสีดวงทวาร โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ อหิวาตกโรค โรคติดเชื้อปรสิต อุจจาระเป็นเลือด เป็นต้น ซึ่งทางที่ดีควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ และเข้ารับการรักษาที่เหมาะสม *รีบพบสัตวแพทย์ทันที เมื่อสัตว์เลี้ยงมีความผิดปกติหรืออาการเจ็บป่วยใดๆ